เทคนิคการบริหารเงินสไตล์เด็กจบใหม่พึ่งเริ่มต้นทำงาน

เงินเดือนๆเเรกที่ได้มาเอาไปซื้อของอะไรดีน้า

ผมเมื่อ 8 เดือนที่แล้ว

ย้อนกลับไปในตอนที่พึ่งได้เงินเดือนก้อนแรกนั้น เราก็อยากจะเอาไปซื้อนู่นซื้อนี่เต็มไปหมด ก็ทำยังไงได้คนพึ่งจะมีอำนาจในการซื้ออ่ะเนอะ

แต่ใจเย็นๆก่อนไอ้สอง ก่อนที่เราจะเพลิดเพลินกับการใช้เงินจนรู้สึกตัวอีกทีเงินก้อนแรกก็กลายเป็นฝุ่นไปซะก่อนไม่เหลือให้เก็บออมเผื่อฉุกเฉินในอนาคตนั้นวันนี้ผมจะมาแชร์วิธีการบริหารเงินสไตล์เด็กจบใหม่อย่างเราๆก็สามารถเริ่มต้นทำได้ง่ายๆแค่มีวินัยก็พอดังนี้

จัดงบการเงินด้วยการแบ่งสัดส่วนอย่างชัดเจน

หลังจากได้เงินมาก็เอามาหักลบหนี้และรายจ่ายประจำที่จำเป็นก่อนที่จะนำไปใช้ยกตัวอย่างรายจ่ายประจำเช่น ค่าเช่าห้อง ค่าน้ำค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าเดินทาง ค่าครอบครัว หลังจากหักลบแล้วเหลือเงินเท่าไหร่ก็เอามาแบ่งอีกว่าค่าอาหารทั้งเดือนประมาณเท่าไหร่ เสร็จแล้วเงินที่เหลือถึงแบ่งไปฝากและใช้ฝุ่มเฟือยได้

การทำงบการเงินจะช่วยให้เราใช้เงินไปกับสิ่งจำเป็นก่อนส่วนที่เหลือถึงจะเอาไปใช้จ่ายตามใจชอบได้ทำให้เราไม่เป็นหนี้เพิ่มเติมเพราะเราคำนวนไว้แล้วยังไงล่ะ

---

รายจ่าย = รายได้ – เงินออม

ถึงแม้ว่าการจัดงบการเงินในข้อที่แล้วจะทำให้เราไม่มีหนี้เพิ่มเติมแต่ก็อาจจะทำให้เราไม่ค่อยมีเงินเก็บเท่าที่ควร ดังนั้นเราควรแบ่งไปออมก่อนอย่างน้อยสัก 10% ของรายได้แล้วที่เหลือค่อยนำไปเป็นรายจ่าย

---

ใช้บัตรเครดิตในการใช้จ่าย(อย่างมีสติ)

บางคนใช้บัตรเครดิตเพราะคิดว่ามันสามารถทำให้เราได้ของที่เราต้องการโดยไม่จำเป็นต้องมีเงินก็ได้แต่ในความเป็นจริงแล้วบัตรเครดิตมันก็เอาเงินของคุณนั่นแหละแต่เป็นเงินในอนาคตของคุณมาใช้ก่อน สุดท้ายก็ต้องจ่ายเงินก้อนนั้นอยู่ดีเผลอๆจ่ายเยอะกว่าราคาเต็มอีกถ้าเราบริหารการใช้จ่ายไม่ดี

ดังนั้นก่อนที่จะใช้รูดเราต้องมั่นใจว่าเรามีเงินสดเท่ากับยอดที่เราจะรูดก่อนถึงใช้บัตรได้ การรูดใช้จ่ายผ่านบัตรมีข้อดีตรงที่สามารถสะสมแต้มไปใช้ได้เช่น แลกไมล์บิน แลกที่พัก ลดราคาของใช้ต่างๆ

---

บันทึกค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน

หลายๆคนคงจะเคยทำมาแล้วและก็ถอดใจเพราะลืมบ้างขี้เกียจบ้างแต่ผมขอยืนยันว่าการบันทึกรายรับรายจ่ายในแต่ละวันช่วยได้จริงๆมันทำให้เราเห็น flow การไหลของเงินว่าเรากินแพงไหมเราใช้จ่ายกับอะไรไม่จำเป็นหรือเปล่าอีกทั้งยังทำให้เรารู้ว่าวันนี้เราใช้เงินเกินงบที่ตั้งไว้แล้วหรือยังอีกด้วย

ปัจจุบันมีแอพพลิเคชั่นที่ทั้งใช้ง่ายแถมมีสรุปผลรายเดือนให้ใช้อีกด้วยแนะนำแอพที่ผมใช้คือ แอพ money manager budget expense แอพนี้ดีมากๆหลังจากที่ลองมาหลายอัน ลิ้งค์โหลดอยู่ด้านล่างจ้า

---

ให้เงินของเราเป็นคนหารายได้ให้เรา

ด้วยการนำเงินที่เก็บออมไปลงทุนในส่วนต่างๆ ถึงแม้ว่าการเก็บเงินในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์จะได้ผลตอบแทนอย่างแน่นอนและมีสภาพคล่องตัวสูงแต่ผลตอบแทนที่ได้ก็น้อยนิดเหลือเกินถ้าเทียบกับการเอาไปลงทุนในที่อื่นๆอย่างเช่น กองทุนรวม ตราสารหนี้ ตราสารทุน หรือจะเป็นออมในหุ้นก็ได้เหมือนกัน

อย่างไรก็ตามการลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุนนะครับ

---

ตัดบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ

เมื่อถึงเวลาที่เราต้องการฝากในทุกๆเดือนเราสามารถให้แอพพลิเคชั่นช่วยตัดเงินเราไปฝากอัตโนมัติได้เลยป้องกันการลืมฝากหรือจะเป็นการแบ่งฝากทุกยอดใช้จ่ายก็ได้โดยการหักเป็น % ไปฝากเช่น 1% เวลาเราซื้อของ 100 บาทแอพพลิเคชั้นก็จะตัดเงินเรา 1บาทไปฝากเป็นต้นดูเหมือนน้อยแต่เก็บสะสมเรื่อยๆก็เยอะเหมือนกันนะโดยเฉพาะสายช้อปปิ้ง

แนะนำแอพพลิเคชั่นสำหรับตัดเงินอัตโนมัตินั่นก็คือ แอพ kebhom ของ scb ลิ้งค์โหลดอยู่ด้านล่างจ้า

---

ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

คุณกินกาแฟวันละกี่บาทลองคำนวนเล่นๆว่าต่อเดือนแล้วค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ราคาเท่าไหร่ แล้วค่าข้าวล่ะเรากินหรูไปไหมในหนึ่งวัน ถ้าเราสามารถลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้รับรองว่าจะมีเงินเหลือใช้ในแต่ละเดือนมากขึ้นเองครับ

---

รางวัลของคนขยัน

หลายคนอาจจะชอบให้รางวัลตัวเองหลังจากทำงานมาเหนื่อยๆทั้งเดือน การให้รางวัลตัวเองเป็นเรื่องปกติแต่ของรางวัลนั้นต้องไม่เกินตัวไม่สร้างหนี้ให้มาเป็นภาระของเราเพราะไม่งั้นรางวัลของเราจะกลายร่างเป็นเวรกรรมที่มาในรูปแบบของยอดชำระรายเดือนนั่นเอง

---

สุขภาพเราสำคัญสุด

เหนือสิ่งอื่นใดคือการดูแลรักษาสุขภาพของเราให้แข็งแรง ยิ่งพนักงานออฟฟิศนั่งหน้าคอมทุกๆวันเสี่ยงเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมต้องหาเวลาออกกำลังกายบ้าง เพราะถ้าเกิดเป็นอะไรไปแล้วการรักษาก็ต้องใช้เงินอยู่ดียิ่งเป็นโรคร้ายแรงยิ่งใช้ค่าใช้จ่ายเยอะ ถ้าเราสุขภาพกายดี สุขภาพใจ และสุขภาพการเงินก็จะดีตามมาครับ

---

สรุป

สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่ของวินัยของแต่ละคนว่าเราสามารถบริหารการใช้เงินของเราได้ดีแค่ไหน การออมเป็นเรื่องที่ดีแต่ต้องไม่ทำให้เราเครียดจนเกินไปด้วย วัยของเรายังอายุน้อยยังมีเวลาให้เก็บเงินอีกเยอะเริ่มก่อนก็มีเก็บก่อนนะครับ

ทั้งหมดนี้เอามาจากประสบการ์ณตรงของผู้เขียนเองใครจะเอาไปปรับใช้ก็ได้ตามสะดวกทำแล้วได้ผลยังไงมาเล่าให้ฟังกันด้วยเน้อ