แชร์ประสบการณ์เด็กไอทีจบใหม่หลังทำงานได้1ปีเต็ม

เนื่องในวันนี้(31/พ.ค./63) เป็นวันครบรอบ1ปีในการทำงานพอดี เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ในปีที่ผ่านมาว่าเป็นไงบ้างชีวิตนอกรั้วมหาลัยสู่โต๊ะทำงานและก็เล่าในช่วงที่เรียนในคณะนิดหน่อยจะพยายามไม่เขียนศัพท์เยอะๆถือซะว่ามาเล่าสู่กันฟังเส้นทางชีวิต อ่านขำๆแล้วกันนะครับผม

ย้อนกลับไปตอน ม.6

ยอมรับก่อนเลยว่าก่อนจะมาเข้าคณะไอทีเนี่ยไม่ได้ทำการบ้านมาก่อนเลย ในตอนนั้นอยากเข้านิเทศ เพราะเป็นคนชอบตัดต่อวีดีโอ มีทำรายการ หนังสั้น เอมวี แคสเกมส์ เลยอยากไปทางนั้นก่อนหน้านี้ก็อยากเรียน วิศวะ สถาปัต นะแต่ก็มาจบที่อยากเข้านิเทศเนี่ยแหละ

แต่เหมือชะตาอยากให้มาทางนี้แหละไปเจอบูทคณะนี้ที่ตั้งอยู่ข้างบูทของนิเทศจุฬาก็เลยลองสมัครไว้ ถึงเวลาไปสอบแล้วก็ติด เวลานั้นเพื่อนก็เริ่มมีที่เรียนกันละ เลยตัดสินใจเอาที่นี่แหละ จริงๆมีสอบตรงของอีกทีที่สมัครไว้ก็เลยไม่ไปเพราะตกลงเอาที่นี่แล้ว

ช่วงเรียนในมหาลัย

เปิดมาใสๆปี 1 ก็ทำกิจกรรมทั่วๆไปเป็นหลีดเป็นสัน ส่วนเรื่องเรียนก็ปรับตัวไม่ทันเลยจ้าหนังสงหนังสือไม่ค่อยอ่าน เรียนก็ไม่ค่อยตั้งใจมันไม่เหมือนตอนมัธยมนะ มหาลัยอาจารย์เขาปล่อยตามยถากรรม ไม่เรียนไม่เป็นไรไม่ว่า จะทำอะไรแล้วแต่นักศึกษาเลยครับผม เกรดตอนปี1เลยเปิดมาไม่สวยเท่าที่ควร นึกกลับไปก็เสียดายนะ ปีหนึ่งควรเป็นปีที่เก็บเกรดให้ได้มากที่สุด จำไว้นะเด็กๆ 5555

ปี 2 – 4 ก็ไม่ได้มีไรหวือหวามาก กิจกรรมก็ทำเบาลง แต่พอขึ้นปี2มาก็รู้สึกอยากตั้งใจเรียนอยากได้เกรดดีๆกับเขาบ้าง ปีนี้เลยเริ่มตั้งใจเรียนทำสรุปที่เรียนแต่ละวิชา เทอมแรกก็ยังไม่เห็นผลนะเกรดเท่าเดิม มาเริ่มดีแบบก้าวกระโดดตอนปี 3 แต่ก็นั่นแหละสายเกินไปแล้ว ในใจหวังเกียรตินิยมนะอันดับ2ก็ยังดี แต่ก็ไม่ถึงอ่ะจบมาด้วยเกรดนิยม 555

สมัครงานตอนปี 4

เห็นป้ายสมัครงานของ SCB มารับถึงที่คณะยอมรับว่าก็ไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่นะ แต่มันก็เป็นบริษัทที่คนรู้จักเยอะอยู่นะ เอาวะลองหน่อยก็ไม่เสียหายอย่างน้อยไม่ได้ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ละกัน ทำเรซูเม่10นาที มาส่งปุ๊ปทำแบบทดสอบปั๊ปแล้วก็สัมภาษณ์เลย พี่ในห้องก็เป็นพี่ที่ทำงานด้วยกันนี่แหละ พี่ถามเกี่ยวกับโปรเจคที่เราทำ ถามเรื่องที่เราเรียน จำได้ปล่อยไก่ไปหลายตัว โดนพี่สอนไปหลายชุด เขินมาก คิดว่าคงไม่ได้แล้วแหละมีเฟลเล็กน้อย

หลังจากสัมภาษณ์ไปแล้ว

เห็นเพื่อนก็เริ่มมีคนจากบริษัทโทรมาบอกว่าผ่านแล้วหลายคนเรายังไม่มีใครโทรมาเลย เสียใจนะแต่ก็ทำไรไม่ได้ จนผ่านไป 2-3 วันพี่ hr ก็โทรมาดีใจมาก นัดวันเซนสัญญา แล้วก็นัดเริ่มงานเลยวันที่ 1 มิ.ย. จำได้ว่าสอบวันสุดท้าย 28 พ.ค. กะว่าไงเรียนจบทำงานเลยเริ่มก่อนได้ตังค์ก่อน 555

ก้าวเข้าสู่มนุษย์เงินเดือนเต็มตัว

• 

• 

• 

เข้างาน 9 โมงเลิก 6 โมง ในช่วงแรกที่เข้ามาทำงานพอดีที่ทำงานเขาจัดเป็น Tech Camp มีเทรนสกิล มี Hackaton สนุกมากได้เจอเพื่อนๆหลากหลาย อารมณ์เหมือนไปค่ายใครอยากรู้รายละเอียดช่วงนี้เข้าไปอ่านได้ที่ Medium ของเพื่อนนิกตามลิงค์ด้านล่างจ้า

https://link.medium.com/ukOkUq1WV6

หน้าที่การงานหลังจบ Tech Camp

หลังจากจบ Tech Camp ก็เข้าสู่ชีวิตจริง ได้ลงทีมทำงานจริงๆ role ของผมคือ iOS developers ถ้าถามว่าทำไมเลือกมาสายนี้ก็คงเพราะชอบล่ะมั้ง เพื่อนชอบบอกว่าผมเป็นสาวก apple แต่ผมก็ไม่คิดอย่างนั้นนะ จุดเริ่มต้นคงเพราะได้ไปฝึกงานตำแหน่งนี้ตอนปี 3 แหละมั้งได้ทำแล้วมันชอบอ่ะ ตอนเรียนเขียน android นะแต่ตอนนี้เขียนแทบไม่เป็นแล้วววว

ตอนลงทีมตัวผมก็ได้ทำ feature แก้บัค(ที่ไม่ค่อยมี) ของแอพ SCB Easy ที่เราๆใช้กันอยู่นี่แหละแต่รายละเอียดก็คงไม่น่าจะพูดได้เนอะ 555 นอกจากนั้นก็ได้ลองทำแทบทุกอย่างเลยนะ ไม่ว่าจะ automate ui, automate api, เว็บ, backend นิดๆหน่อยๆ ก็สนุกดีนะท้าทายดี

รูปแบบในการทำงาน

การงานก็ทำเป็น sprint รอบละประมาณ 2 สัปดาห์ ต้องทำและก็เทส เทสผ่านก็ได้ไปต่อไม่ผ่านก็วนมาแก้ใหม่จนกว่าจะได้ deploy ลงแอพนั่นแหละ ส่วนก่อนจะเริ่ม sprint ก็ต้องทำการ Glooming ก่อนเพื่อให้รู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้านใน sprint นี้และก็ต้อง planning ว่างานที่ได้มานั้นต้องใช้เวลาเท่าไหร่อันไหนสำคัญสุด ทำทันไหม ก็ว่ากันไป จบ sprint ก็มี retrospective สรุปว่า sprint ที่ผ่านไปมีตรงไหนดีไม่ดีต้องปรับปรุงยังไง

ใช้ความรู้จากที่ร่ำเรียนมา

มาทำงานที่นี่ได้ใช้เนื้อหาของวิชา programming อยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นหลักการ OOP design pattern การใช้ git วิธีการเขียน test ให้ครอบคลุม ไปจนถึงวิชา project management ที่ได้เอาความรู้เกี่ยวกับ Meeting ต่างๆมาใช้ ถึงจะจำไม่ค่อยได้แล้วก็เถอะ

พี่ๆและเพื่อนร่วมทีม

• 

• 

• 

• 

• 

• 

ดีมากกกกกกกกกกกกก (ก.ไก่ 200ล้านตัว) เพื่อนๆในทีมนี่เหมือนคัดคนที่เข้ากันได้นิสัยเหมือนๆกันมาอยู่ด้วยกัน เพราะไม่ว่าจะทำอะไรเพื่อนๆก็พร้อมจะร่วมด้วยช่วยกันยุยงส่งเสริมไม่เว้นแม้แต่พี่ๆก็โดนด้วยไปไหนไปกันสุดๆ555 เวลามีปัญหาอะไรก็ปรึกษากันได้ตลอดไม่ใช่แค่เฉพาะเรื่องงาน เลยรู้สึกไม่กดดันเลย (แต่ก็มีบ้างถ้างานไม่เสร็จ)

บรรยากาศที่ทำงาน

• 

• 

เพราะว่าตัวผมเรียนหอวังเวลามองออกจากตึกหรือเวลานั่งรถเมล์กลับบ้านจะเห็นตึกนี้ประจำเลยชินกับรูปทรงของตึกนี้แต่ก็ไม่คิดว่าข้างในจะใหญ่และมีคนเยอะขนาดนี้ แต่ไม่อึดอัดนะเวลาทานข้าวก็มีร้านให้เลือกเยอะไหนจะตลาดอีก โต๊ะทำงานก็ปลอดโปร่งไม่ได้เป็นคอกๆ อย่างไปนั่งคุยกับเพื่อนก็มีโต๊ะสุกี้ไว้นั่งสุมหัวกัน

ผลกระทบจาก Covid -19

ช่วงเดือน 2 เดือนที่ผ่านมาโควิดก็ทำให้ต้อง work from home แต่ไม่ได้กระทบกับรายได้นะยังเท่าเดิม แอบรู้สึกว่าชอบไปนั่งทำงานกับเพื่อนมากกว่ามันรู้สึกมีไฟในการทำงานบวกกับทำงานที่บ้านมันเหงาด้วยแหละมั้ง

ความรู้สึกหลังทำงานไปแล้ว 1 ปี

รู้สึกว่าตัวเองมีความรับผิดชอบมากขึ้นมานิดนึง ใช้เงินระวังมากขึ้นเทียบกับตอนทำงานใหม่ๆ เขียนโค้ดได้เรียบร้อยขึ้น(มั้ง) แต่ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งและพูดไม่ค่อยรู้เรื่องอยู่ดี 5555

เป้าหมายหลังจากทำงานไปแล้ว 1 ปี

อยากอัพเกรดตัวเองให้เก่งๆ ทั้งด้าน programming อยากจะมองโค้ดแล้วรู้ปัญหาหรือสามารถแก้ไขให้โค้ดมันมีประสิทธิภาพมากขึ้นก็คงต้องฝึกอีกเยอะ และด้านภาษาก็อยากฟัง พูดคล่อง เพราะว่าที่นี่มีชาวต่างชาติเยอะเลยอยากจะสื่อสารได้กับทุกคนเวลาเห็นพี่พูดคล่องๆนี่มันโคตรเฟี้ยวสุดๆไปเลย

ตั้งเป้าหมายทางการเงินไว้ว่าจะมีเงินล้านก่อนอายุ 30 ไม่รู้จะไหวไหมนะแต่จะพยายาม พึ่งซื้อรถคันแรกไปเมื่อเดือนที่แล้ว ก็คำนวนไว้แล้วว่าการผ่อนต้องไม่กระทบกับเงินเก็บรายเดือนเลยไม่มีปัญหามากแค่จะเหลือเงินไปกินเล่นน้อยลงไปเยอะเท่านั้นเอง

สรุป

ดีใจนะที่ตัวเองได้ทำงานตรงสายที่เรียน และก็ดีใจที่ได้มาเริ่มทำงานที่นี่ด้วย เพื่อนๆ พี่ๆพร้อมช่วยเหลือ แถมยังได้ทำแอพ ที่มีคนใช้เป็นล้านคนเนี่ยมันก็ภูมิใจเหมือนกันนะถึงแม้ว่าเวลามันล่มจะโดนเพื่อนทักมาบ่นก็เถอะ 5555

เป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังจะหางานหรือทำงานอยู่ ช่วงนี้ covid ยังไม่จางหายไปแต่สายงานของเราไม่ค่อยได้รับผลกระทบนะบริษัทยังเปิดจ้างงานปกติเลย เงินเดือนก็ดีด้วย หรือถ้าอยากมาร่วมงานด้วยกันก็มาได้เสมอที่นี่ก็เปิดรับสมัครอยู่นะ