Review: Splinterland card game Play to Earn ที่ทุนน้อยก็เล่นได้

สวัสดีครับ หลายคนอาจจะเห็นว่าช่วงนี้กระแสเกมบน Blockchain ที่เป็น Play to Earn กำลังมาแรงยกตัวอย่างเช่นเกม Axie Infinity แต่การจะเข้าไปเล่นนี่มันช่างใช้ทุนหนาเหลือเกิน (Axie ราคาต่ำสุดตัวละ 0.05 ETH และต้องมี 3 ตัวถึงจะเข้าไปเล่นได้ลองไปดูราคา ETH เอานะมันขึ้นลงตลอดเวลาเลย) หลายคนคงจะไม่ไหวถึงแม้เกมมันจะน่าเล่นอ่ะนะ

ก่อนจะไปเริ่มอธิบายตัวเกมเรามาทำความเข้าใจกับคำว่า Play to Earn ก่อนว่ามันคืออะไร

Play to Earn

ความหมายของมันก็ตรงตัวเลยมันคือการที่เราเล่นแล้วได้ผลตอบแทนเป็นเงินจริงๆ ส่วนจะได้มายังไงนั้นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละเกมแต่ส่วนใหญ่จะเป็นการได้ Token ในเกมซึ่งเอาไปเทรดเป็นเงินได้ หรือจะเป็นการได้ของในเกมแล้วเอาไปขายในตลาดก็ได้เช่นกัน พอจะเข้าใจการทำเงินแล้วใช่ไหมครับ แต่บอกไว้ก่อนนะ บทความนี้ไม่ได้จะเชิญชวนมาลงทุนอะไรนะครับแค่มารีวิวเกมเฉยๆเด้อออ

ทำความรู้จักกับ Splinterland

Splinterland เป็น Digital Trading Card Game ที่อยู่บนระบบ Blockchain ซึ่งนั่นทำให้ผู้เล่นสามารถซื้อ ขาย แลกเปลี่ยนการ์ดได้อย่างง่ายดายอีกทั้งทุกๆข้อมูลการแข่งขันรวมถึงข้อมูลการ์ดแต่ละใบรวมไปถึงเจ้าของของการ์ดใบนั้นสามารถตรวจสอบได้อีกด้วย ซึ่งการที่เราจะ Play to Earn ของเกมนี้จำเป็นต้องซื้อ item Spell Book ซะก่อนเดี๋ยวผมไปลงรายละเอียดท้ายๆ เพราะถึงแม้เราจะไม่ซื้อเราก็สามารถเล่นเกมนี้และลง Rank ได้ฟรีเหมือนกัน

Concept Game

ถ้าคนเคยเล่น Card game จะเข้าใจได้ง่าย Concept คล้ายกับ Hearthstone, Pokemon, MTG แต่ต่างกับพวกที่กล่าวมาตรงที่ Splinterland ใช้การ์ดในการสู้กันไม่ถึง 10 ใบ ไม่ต้องจั่ว ไม่ต้องใช้ดวงว่าตานี้จะมีจี้(energy)เล่นไหมแบบ Pokemon 555+ หลายคนคงเริ่มงงละว่ามันจะเล่นกันยังไงเราไปดูวิธีเล่นกัน

How to Play

ก่อนอื่นเลยเราจำเป็นต้องสร้างแอคเคาท์ก่อนถ้าเป็นสายฟรีก็เลือกทางซ้ายใส่ Email Password ก็เล่นได้เลยแต่ถ้าอยากหารายได้ควร Link กับ External Wallet ยกตัวอย่างของผมใช้ MetaMask วิธีสมัครลองหาในกูเกิลดูนะครับ

เกมนี้เราสามารถเล่นแบบ Practice, Challege หรือจะลง Rank ก็ได้หลังจากเลือกแล้วกด Battle ระบบจะทำการสุ่มผู้เล่นที่ระดับเดียวกับเราและจะสุ่มกฏในการเล่น ธาตุของการ์ดที่สามารถเล่นได้ Mana ที่ใช้ในการจัดเด็คของรอบนั้นๆ และเวลาถอยหลังในการเตรียมตัว เราสามารถดูข้อมูลเด็คที่ผ่านมาของคู่แข่งได้อีกด้วยเพื่อทำนายว่าเขาจะเล่นเด็คแบบไหนซึ่งอีกฝ่ายก็จะเห็นของเราเช่นกันนะ หลังจากนั้นเราก็เลือกได้ว่าจะยอมแพ้หรือจัดเด็คสู้

หลังจากกด Make Team ก็จะเข้าสู่หน้าจัดเด็ดจากการ์ดที่เรามีโดยที่ตอนแรกเราจะมีการ์ดเริ่มต้นกันธาตุละ 16 ใบเหมือนๆกัน ระบบจะให้เราเลือก Summonners ก่อนเสมอ ซึ่งแต่ละตัวก็มีความสามารถแตกต่างกันไปหลังจากเลือกแล้วก็จะต้องมาเลือก Monsters ที่มีธาตุตรงกับ Summoners ที่เลือกไปยกเว้นธาตุมังกรที่ต้องเลือกธาตุอีกทีโดยที่ผลรวมของ Mana ต้องไม่เกินกับที่กำหนดไว้

พอจัดเด็คเสร็จกด Battle จะเข้าสู่หน้าจำลองการต่อสู้พอจบแล้วก็จะมีหน้าต่างสรุปผลแพ้ชนะ ในเรื่องการจัดเด็คผมคงไม่ลงรายละเอียดไว้จะทำเป็นคลิปสอนแล้วกันนะไม่งั้นน่าจะยาว ก่อนอื่นเรามาดูรายละเอียดการ์ดกันดีกว่า

Cards Basic

ในเกมนี้จะมีการ์ดอยู่ 2 ประเภทนั่นคือ Summoners และ Monsters ตัว Summonners เปรียบเสมือนหัวหน้าทีมจะไม่มีพลังในการโจมตีแต่จะสามารถ Buff ผ่ายเราหรือ DeBuff ฝ่ายตรงข้ามได้ ตัวที่ใช้ในการต่อสู้จริงๆคือ Monster ซึ่งการ์ดก็จะมีหน้าตาและรายละเอียดดังนี้

1. Mana Cost: ค่ามานาที่ต้องใช้ในการเอาลงทีมยิ่งตัวที่แข็งแกร่งมากๆค่านี้ก็จะยิ่งสูง
2. Stats: จะมีอยู่ด้วยกัน 4 อย่างเริ่มจากทางซ้ายบนลงล่างและขวาบนลงล่างตามลำดับ
   • พลังโจมตีและประเภทการโจมตี: ในเกมนี้มีการโจมตีอยู่ 3 ประเภท
     • ระยะประชิด(กงจักร)
     • ระยะไกล(ธนู)
     • พลังเวท
   • ความเร็ว: ยิ่งตัวเลขมากจะทำให้ได้เริ่มโจมตีก่อน
   • เกราะ: เมื่อถูกโจมตีถ้ามีค่าเกราะจะลดค่าเกราะก่อนแทนที่จะลดพลังชีวิตยกเว้นพลังโจมตีเวท
   • พลังชีวิต: เมือหมดการ์ดใบนั้นจะถูกออกจากเกม
3. Splinter/Rarity: ธาตุแบ่งออกเป็น 6 ธาตุ Fire, Water, Earth, Death, Light, Dragon ส่วนความหายากมี 4 ระดับ Common, Rare, Epic, Legendary
4. Card Name
5. Level: ยิ่งเลเวลสูง Stats ก็จะยิ่งโหดขึ้นเพิ่มเลเวลได้จากการรวมการ์ดซ้ำๆกัน
6. Experience: บอกว่าเรารวมการ์ดมาใกล้จะได้อัพเลเวลหรือยัง
7. Ability: ความสามารถพิเศษของการ์ดซึ่งมีเยอะมากยกตัวอย่างเช่น ลดดาเมจจากการโจมตีระยะใกล้ เลือกตีตัวเลือดน้อย เป็นต้น

Battlefield

เรามาดูสนามในการเล่นกันดีกว่า สนามมีแนวหน้าและแนวหลัง Monsters ประเภทโจมตีระยะใกล้จะตีได้ก็เมื่ออยู่ในตำแหน่งแนวหน้าเช่นเดียวกับโจมตีไกลก็จะโจมตีได้เฉพาะเมื่ออยู่แนวหลังเท่านั้น(ยกเว้นมี Ability)ส่วนตัวที่ใช้เวทสามารถโจมตีจากตำแหน่งไหนก็ได้เพราะฉะนั้นจัดตำแหน่งดีๆถ้าเริ่มมาเราเอาตัวตีไกลเป็นตัวแรกตัวนั้นของเราจะไม่สามารถตีอีกฝั่งได้เลย โดยที่ตำแหน่งก็จะตามที่เราจัดไว้ก่อนหน้านั่นแหละตามตัวเลขเลยและเมื่อตัวก่อนหน้าตายตำแหน่งก็จะขยับมาเรื่อยๆตามลูกศร เมื่อ Monsters ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหมดก็จะเป็นฝ่ายแพ้ไปนั่นเอง

การ Play to Earn ของ Splinterland

มาถึงเรื่องสุดท้ายแล้วนะครับอย่างที่เกริ่นไว้ว่าเกมนี้มันสามารถ Play to Earn ได้นะและจะทำยังไงล่ะเราถึงจะ Earn ได้ มาเดี๋ยวผมอธิบายให้ฟังครับแต่ก่อนอื่น บทความนี้ไม่ได้จะเชิญชวนมาลงทุนอะไรนะครับแค่มารีวิวเกมเฉยๆ

DEC (Dark Energy Crystal)

DEC เป็นสกุลเงินดิจิตอลในเกมที่สามารถเอาไว้ใช้จ่ายแลกเปลี่ยน ซื้อ เช่าการ์ดในเกมได้และเราสามารถโอนเข้าเหรียญนี้เข้า Wallet เพื่อเปลี่ยนเป็น Crypto เหรียญอื่นๆได้อีกด้วย (ณ วันที่เขียนบทความ 1000 DEC ประมาณ 100 บาท ราคาขึ้นลงตลอดเวลา) ซึ่งการที่เราจะได้เหรียญมานั้นเราจำเป็นต้องทำการ Upgrade Account ก่อนโดยการซื้อสิ่งที่เรียกว่า Spell Book (ราคาประมาณ 300 กว่าบาท)หลังจากเราซื้อมาแล้วจะปลดล็อคสิ่งต่างๆที่ทำให้ได้ DEC ดังนี้

• ทุกๆรอบที่เราชนะใน Rank จะได้เหรียญ DEC ยิ่งชนะต่อกันเยอะๆยิ่งได้เยอะ
• เควสรายวัน ถ้าทำสำเร็จจะได้กล่อง ในกล่องจะมีตั้งแต่ DEC, การ์ดต่างๆ, Pack การ์ด, Potion เป็นต้น
• รางวัลเมื่อจบ Season ยิ่ง Rank สูงยิ่งได้กล่องเยอะ
• สามารถเข้า Tournament ได้โดยแต่ละ Tournament ก็จะมีรางวัลแตกต่างกันไป

ขาย ปล่อยเช่า Summoners และ Monster

ในเกมนี้จะมีการ์ดเริ่มแรก 96 ใบการ์ดที่ได้มาตอนแรกนี้คือการ์ดที่เราเล่นได้แต่ไม่ใช่การ์ดของเราจริงๆการ์ดที่จะเป็นของเราคือการ์ดที่เราได้จากการเปิดกล่องหรือการ์ดที่เราไปซื้อมา การ์ดที่เราเป็นเจ้าของนั้นถ้าเราไม่ใช้เราสามารถไปขายต่อหรือไปปล่อยเช่าได้โดยการขายจะได้เป็นเงิน USD แต่ปล่อยเช่าจะได้เป็นเหรียญ DEC แทน

แข่ง Tournament เพื่อชิงเงินรางวัล

บาง Tournament มีค่าเข้าบางอันก็ไม่มีค่าเข้าแต่ต้องมีการ์ดในระดับนึงอีกทั้งยังมีกำหนด Rank ด้วยทำให้ผู้เล่นใหม่ไม่โดนผู้เล่นเก่งๆตบใน ​Tournament ได้

สรุป

เกม Splinterland เป็น Digital Trading Card Game ที่อยู่บนระบบ Blockchain สายฟรีก็เล่นได้แต่ถ้าอยากหารายได้ในเกมจำเป็นต้องเสียเงินซื้อ Spell Book เพื่อ Upgrade Account ก่อนถึงจะสามารถเริ่มหารายได้จากการขายการ์ดหรือแลกเปลี่ยนเหรียญ DEC ในเกมเป็นเหรียญอื่นแล้วไปขายได้ ลองมาดูข้อดีข้อเสียของเกมนี้กัน

ข้อดี:

• สายฟรีก็เล่นได้เหมือนกับสายเติมแค่เล่นแล้วจะไม่ได้เหรียญ ไม่ได้ Loot Chest
• ค่าแรกเข้าถูกเมื่อเทียบกับ Play to Earn เกมอื่นๆ
• เกมๆนึงจบไวไม่นานไม่ถึง 10 นาที
• เกมเข้าใจง่ายแต่สนุกมีการสุ่มกฏทำให้ไม่น่าเบื่อ

ข้อเสีย:

• อาร์ตในเกมอาจไม่สวยเท่าเกม NFT อื่นๆ
• ราคาเหรียญ DEC ยังไม่สูงเท่าเกมอื่นๆ

สำหรับรายละเอียดเบื้องต้นและวิธีการเล่นของ Splinterland ก็จบไปแล้วใครมีคำถามอะไรสงสัยถามมาได้ในเพจ MildSpace เลยนะครับผม ถ้ามีคนสนใจเยอะๆเดี๋ยวจะลอง Live ในเพจนะ

ก่อนจะไปขอย้ำอีกครั้งนะ บทความนี้ไม่ได้จะเชิญชวนมาลงทุนอะไรนะครับแค่มารีวิวเกมเฉยๆเล่นเอาสนุกๆนะครับผม